คอลลาเจนกินแล้วขาว ความเชื่อนี้ผิดหรือถูก ไขข้อสงสัยนี้
( คอลลาเจนกินแล้วขาว ความเชื่อนี้ผิดหรือถูก ไขข้อสงสัยนี้ ) เพราะความสวยรอไม่ได้เช่นเดียวกับความขาวที่สาว ๆ หลายคนต่างพยายามเสาะแสวงหาตัวช่วยที่จะทำให้ได้ผิวขาวใสขึ้น โดยเฉพาะจำพวกอาหารเสริมที่ช่วยให้ผิวขาว จึงกลายเป็นไอเท็มยอดฮิตที่สาว ๆ พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สารสกัดจากธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งยอมเสี่ยงอันตรายกับการฉีดกลูต้าไธโอนที่สาว ๆ มีความเชื่อว่าทำให้ผิวขาวใสขึ้นแบบทันตาเห็นจริง ๆ นอกจากนั้นยังมีอีกทางเลือกที่กำลังเป็นกระแสเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ช่วยให้ผิวขาว ด้วยการทาน “คอลลาเจน” เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ รับประกันว่าผิวขาวขึ้นอย่างแน่นอน แต่ความเชื่อนี้จะถูกหรือผิดเรามาไขข้อสงสัยนี้พร้อมกันดีกว่า
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ บำรุงผิวด้วยคอลลาเจน วิธีง่าย ๆ ไม่ต้องจ่ายแพง
คอลลาเจน คืออะไร ??
คอลลาเจนไม่ใช่อะไรแปลกใหม่สำหรับมนุษย์เลย เพราะในความเป็นจริงคอลลาเจนก็คือโปรตีนประเภทหนึ่ง ซึ่งอยู่ในร่างกายของคนเรา เป็นการรวมตัวกันของกรดอะมิโน (amino acid) หลายชนิดเกี่ยวพันต่อกันเป็นสายยาว มีลักษณะรูปแบบสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลอยู่มากมาย และนอกจากนั้นคอลลาเจนยังมีองค์ประกอบอยู่ประมาณ 25-35% ของปริมาณโปรตีนทั้งหมด ซึ่งเราจะสามารถพบคอลลาเจนได้ตามข้อกระดูก ดวงตา ผม เล็บ ชั้นโครงสร้างของผิวหนัง และยังแทรกอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ในอวัยวะ ไม่เพียงเท่านั้นคอลลาเจนที่อยู่ภายในบริเวณผิวหนัง หรือที่เรียกว่า เคราติน มีส่วนช่วยให้โครงสร้างผิวหนังแข็งแรง และ ยืดหยุ่นอยู่เสมอเวลาเคลื่อนไหวร่างกาย แต่เมื่ออายุเริ่มเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนก็เริ่มเสื่อมสภาพลง แถมร่างกายเองก็ไม่สามารถผลิตขึ้นมาทดแทนได้ดีเท่ากับต่อวัยเยาว์ ส่งผลให้ ขาดความยืดหยุ่น เกิดจุดด่างดำ ผิวพรรณหย่อนคล้อยขึ้น และแรงสปริงของชั้นผิวก็เสื่อมถอยลงตามสภาพไปเรื่อย ๆ เช่นกัน ที่สำคัญผิวที่เคยกระชับตึงเรียบเนียนก็จะลดลง และสุดท้ายก็มีริ้วรอยเกิดขึ้นมาสร้างความรำคาญใจให้กับสาว ๆ แต่ถ้าหากร่างกายได้รับคอลลาเจนเพียงพอผิวหนังก็จะเริ่มกระชับ เต่งตึง เส้นผมแข็งแรงนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นผลชัดเจน
ทานคอลลาเจนแล้วผิวขาวได้จริงหรือไม่ ??
จากประโยชน์ของคอลลาเจนตามที่กล่าวในข้างต้น สำหรับความเชื่อที่ว่าทานคอลลาเจนแล้วขาวขึ้นถูก หรือ ผิดนั้น สามารถสรุปได้ว่าการทานคอลลาเจนอย่างเดียวอาจไม่ทำให้ผิวขาวใสขึ้นได้ในทันทีทันใด ชนิดทันตาเห็น แต่สำหรับคนที่รับประทานคอลลาเจนอยู่เป็นประจำจะรู้สึกได้ว่า นอกจากริ้วรอยที่ลดลง ผิวพรรณเรียบเนียน เต่งตึงขึ้นแล้ว บางคนอาจสัมผัสได้ว่าผิวจะค่อย ๆ ขาวขึ้นเรื่อย ๆ โดยคอลลาเจนยังมีคุณสมบัติเด่น ๆ อีกประการคือ โครงสร้างตาข่ายในคอลลาเจนจะทำหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิว ทำให้เซลล์ผิวได้ดื่มน้ำ ผิวอวบอิ่ม ส่งผลต่อผิวพรรณกระจ่างใส ไม่แห้งกร้าน ดูมีน้ำมีนวลเป็นสาวสุขภาพดี และสุดท้ายผิวแลดูขาวใสขึ้นได้นั่นเอง แต่ทว่าถ้าต้องการให้ผิวขาวใสเร็วทันใจ ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดแนะนำว่าควรต้องทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น ผักปวยเล้ง ส้ม มะขามแขก บร็อคโคลี่ ฝรั่ง เป็นต้น
เนื่องจากในวิตามินซีมีสรรพคุณในเรื่องของการละลายน้ำ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดริ้วรอยด่างดำ ฝ้า กระ ยิ่งได้ทำงานร่วมกับคอลลาเจนด้วยแล้ว จะยิ่งช่วยให้เนื้อเยื่อที่เริ่มเสื่อมสภาพถูกซ่อมแซมให้สมบูรณ์ขึ้น อีกทั้งยังปรับโครงสร้างให้ผิวแข็งแรงกว่าเดิม และถ้าทานคอลลาเจนกับวิตามินซีอยู่เป็นประจำยังช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน ผิวที่แห้งกร้านอันมีสาเหตุมาจากแสงแดดก็จะถูกฟื้นฟูให้เนียนนุ่ม เปล่งปลั่งกระจ่างใส ในที่สุด
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะไม่ได้ผลถ้าเลือกช่วงเวลาทานไม่ถูกต้อง โดยการทานคอลลาเจนสามารถทานตอนไหนก็ได้ผลเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดนำว่าควรทานตอนช่วงขณะที่ท้องกำลังว่าง เพราะช่วงที่ท้องว่างอยู่นั่นกระเพาะอาหารจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี เช่น ทานตอนเช้า (ก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที) หรือทานตอนนอน (หรือหลังอาหารเย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง) และที่สำคัญจะต้องมีระเบียบวินัยทานให้เป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อผลประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น หากว่าคุณเป็นคนที่ใส่ใจในสุขภาพ ชอบดูแลตัวเองให้มีผิวพรรณสดใส เรียบเนียน เต่งตึง กระชับขึ้น ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักสด ผลไม้ และดื่มน้ำสะอาดให้ได้ปริมาณมาก ๆ ในแต่ละวันเพื่อช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนและวิตามินซี จะช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้กับผิว และแน่นอนว่าผิวสุขภาพดีแบบผิวในฝันจะเป็นของคุณได้ไม่ยากเลยทีเดียว
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ รักษาเข่าเสื่อมวิธีใหม่ แบบไม่ต้องผ่าตัดด้วย “คอลลาเจน”
Reference
http://www.kangzen.com/news-activities-article-detail.php?id=18