คอลลาเจนเริ่มกินอายุเท่าไหร่ ถึงจะดี กินไปเรื่อย ๆ มีผลเสียต่อร่างกายไหม
( คอลลาเจนเริ่มกินอายุเท่าไหร่ ถึงจะดี )เชื่อว่ามาถึงตอนนี้สาว ๆ หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว “คอลลาเจน” มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของผิวพรรณ ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส, เรียบเนียน, ลดรอยหมองคล้ำ และยังมีผลดีต่อเส้นผมเพราะคอลลาเจนจะกระตุ้นให้ร่างกายสามารถผลิตโปรตีนไฟเบอร์ได้มากขึ้น ส่งผลให้เส้นผมของเราดกดำ นุ่มนวล เงางาม มีน้ำหนัก และหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่ถึงอย่างไรคอลลาเจนก็ไม่สามารถที่จะอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิต เพราะเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้ลดน้อยลง ซึ่งสาว ๆ จะเห็นได้จากเมื่อช่วงอายุ 20 ปี ผิวหนังของเราจะยังคงเต่งตึง นั่นเป็นเพราะในผิวหนังยังประกอบคอลลาเจนอยู่มากถึงประมาณ 75% ด้วยกัน แต่พอตัวเลขอายุเริ่มเพิ่มมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนลดลงเฉลี่ย 1.5% ด้วยกัน พอเข้าสู่วัยกลางคนอายุเริ่มแตะเข้าวัย 40 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกายก็จะลดลงถึง 30% ซึ่งในช่วงนี้ผิวของเราก็จะอ่อนแอลง เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่นเพิ่มมากขึ้น สาเหตุเกิดจากการที่ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น และนอกจากผลกระทบต่อผิวพรรณแล้ว ก็จะเจอปัญหาที่บริเวณข้อต่อกระดูกต่าง ๆ เวลาเดินก็ทำให้เสียดสีจนเกิดเสียงกระดูกลั่นขึ้น ฉะนั้นเมื่อทราบแล้วว่าร่างกายขาดหรือปล่อยให้คอลลาเจนลดน้อยลงไม่ได้ ประกอบกับเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคอลลาเจนก็จะสวนทางคือผลิตได้ลดน้อย ทางแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือต้องเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายด้วยการเริ่มต้นทานคอลลาเจนตั้งแต่ยังอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว กล่าวคือเมื่ออายุเข้าสู่วัย 25 ปี ก็ควรเริ่มทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปเพื่อให้ร่างกายไม่ต้องเข้าสู่ภาวะขาดคอลลาเจนนั่นเอง
คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกต่อ รักษาเข่าเสื่อมวิธีใหม่ แบบไม่ต้องผ่าตัดด้วย “คอลลาเจน”
นอกจากวิธีช่วยเสริมคอลลาเจนให้กับผิวแล้ว การลดการสูญเสียคอลลาเจนก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้ร่างกายยังคงสภาพคอลลาเจนไว้ให้อยู่กับร่างกายได้นาน ๆ โดยจะมีวิธีไหนบ้างมาลองดูกัน
- เริ่มจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของตัวเองก่อน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลให้ระดับอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้น ซึ่งได้แก่อาหารจำพวก หวานมาก ๆ อาหารประเภทปิ้งย่าง และอาหารแปรรูป
- เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติของคอลลาเจนสูง ๆ เช่น ปลา, ผักใบเขียว, เอ็นสัตว์ เป็นต้น ถ้าจะให้ดีควรทานวิตามินซีควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มการผลิตคอลลาเจน และช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอีกด้วย
- พยายามอยู่ให้ห่างจากมลภาวะเป็นพิษต่าง ๆ เช่น ควัน, ฝุ่น, สารเคมี, ยาฆ่าแมลง, ความเครียด และที่สำคัญไม่ควรสูบบุหรี่หรือสูดดมกลิ่นควันจากบุคคลอื่น เพราะควันบุหรี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ส่งผลให้คอลลาเจนในร่างกายถูกทำลายลง
- ปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการใช้ครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะรังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดจะทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังลดลง แถมยังเพิ่มเอนไซม์ที่ส่งผลร้ายโดยตรงกับคอลลาเจนอีกต่างหาก
คอลลาเจนส่งผลต่อร่างกายหรือไม่ เมื่อบริโภคเป็นประจำ
ทุกอย่างในโลกล้วนต้องมีข้อดีและข้อเสียควบคู่กันไป เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ซึ่งเมื่อรู้แล้วว่าข้อดีของคอลลาเจนมีอะไร ลองมาพิจารณาถึงข้อเสียดูบ้าง ซึ่งสามารถสรุปได้ดังหัวข้อต่อไปนี้
- มีอาการแพ้
ส่วนประกอบสำคัญของอาหารเสริมคอลลาเจนมักนำมาจากสัตว์ทะเลน้ำลึก หรือสัตว์น้ำที่มีเปลือก ฉะนั้นถ้าคุณมีอาการแพ้อาหารทะเล ก่อนที่จะบริโภคเข้าไปจึงควรดูก่อนว่าส่วนผสมของคอลลาเจนที่ซื้อมามีอะไรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการ ในขณะเดียวกันคอลลาเจนก็คือโปรตีน คนที่แพ้อาหารจำพวกโปรตีนก็ไม่ควรรับประทานเช่นเดียวกัน
- กินเกินความจำเป็น ไตทำงานหนัก
สาว ๆ บางคนต้องการให้เห็นผลเร็ว ๆ ก็มักจะใช้วิธีเพิ่มปริมาณกินคอลลาเจนเข้าไปมาก ๆ กว่าที่ฉลากได้ระบุเอาไว้ เท่ากับว่าทำให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนมากเกินจำเป็น ส่งผลให้ไตต้องทำงานหนักมากขึ้น ยิ่งเป็นคอลลาเจนที่ใส่ส่วนผสมของสารประเภทกลูต้าไธโอน ก็เท่ากับไตต้องทำงานในการขับสารพวกนี้ ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะทำให้ไตพัง เสี่ยงไตวาย และถ้าคุณมีโรคประจำตัวเป็นโรคไตก็ไม่ควรกินโดยเด็ดดขาด โดยความต้องการคอลลาเจนของร่างกายใน 1 วันจะอยู่ที่ประมาณ 5-7กรัม(5,000-7,000มิลลิกรัม)และไม่เกิน10 กรัม(10,000มิลลิกรัม)
- รสชาติไม่ถูกใจ
อาหารเสริมคอลลาเจนมักมีที่มาจากแหล่งปลาทะเลน้ำลึกจึงมีรสชาติและกลิ่นที่ไม่ถูกใจเท่าไหร่นัก บางคนอาจจะรู้สึกว่ามีกลิ่นคาว ๆ ส่วนใหญ่จึงนิยมรับประทานควบคู่ไปกับน้ำผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อย่างเช่นน้ำส้ม, น้ำแอปเปิ้ล, น้ำมะเขือเทศ ซึ่งจะช่วยให้กินได้ง่ายขึ้น
จากทั้งหมดนี้เราจึงสามารถสรุปได้ว่าคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีความจำเป็นต่อร่างกายมาก การขาดคอลลาเจนจะส่งผลต่อร่างกายได้มากมาย ดังนั้นการไม่ปล่อยให้คอลลาเจนขาดจึงเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ โดยเราสามารถทำได้ด้วยการกินคอลลาเจนเสริมเข้าไปตั้งแต่อายุเข้าสู่ช่วง 25 ปีขึ้นไป และควรกินเป็นประจำต่อเนื่องอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้ก็ต้องควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ รับรองได้ว่านอกจากจะได้สุขภาพแข็งแรงแล้วยังได้ผิวสวยอีกด้วย
คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกต่อ คอลลาเจน กำลังจะหายไป เตรียมรับมืออย่างไรได้บ้าง
Reference
https://www.patanasongsivilai.com/blog/ข้อเสียคอลลาเจน-กินทุกว/